วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

การยืน



การยืนเคารพธงชาติ หรือเพลงชาติ ให้ยืนตรงแสดงคารวะโดยหันหน้าไปทางธง ชาติเมื่อเพลงจบให้ค้อมศีรษะคำนับ
สำหรับการ เคารพธงชัยเฉลิมพลในพิธีต่าง  เช่น พิธีสาบาน ธงงานราชวัลลภ บุคคลทั่ว ไปเมื่อจะผ่านธงชัย เฉลิมพลให้หยุดและยืนแสดงคารวะหรือเมื่อมี การเชิญธงชัยเฉลิมพลผ่านก็ให้ยืนตรงแสดง ความเคารพเช่นเดียวกัน

การยืนถวายความเคารพสมเด็จพระสังฆราช

1. เมื่อสมเด็จพระสังฆราชเสด็จ มาถึงมณฑลพระราชพิธีก่อนพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว หรือพระบรมวงศ์ชั้นสูง ผู้ที่ มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่  ที่นั้น ถวายความเคารพโดยการยืนประนมมือไหว้ เมื่อเสด็จ ผ่านแล้วจึงนั่งลง

2. ในกรณีที่ สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาถึงภายหลัง (ซึ่งโดย ปรกติน่าจะไม่ปรากฏให้ถวายความเคารพโดย วิธีนั่งประนมมือไหว้


การยืน ถวายความเคารพพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศ์ 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

สมเด็จพระบรมวงศ์

1. การยืนรับเสด็จฯ นอกพระที่นั่ง อาคาร หรือแนวทางลาดพระบาทที่เสด็จ ถ้าเป็นข้าราชการจัดให้ยืนเรียงแถวตามลำดับยศ ตำแหน่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งกำหนดการเฝ้าฯ เป็นงาน  เช่น แต่งเครื่องแบบเต็มยศครึ่งยศปกติ โดยปฏิบัติตามระเบียบของเจ้าหน้าที่หรือผู้รับผิดชอบแนะนำ

ถ้าแต่งเครื่องแบบสวมหมวกทั้งชายและ หญิงให้ยืนถวายความเคารพด้วยการทำวันทยหัตถ์

หากไม่สวมหมวกข้าราชการชาย ทหาร ตำรวจ พลเรือนและหญิงที่แต่งเครื่องแบบทหาร ตำรวจ ให้ถวายคำนับโดยก้มศีรษะลงช้า  ต่ำพอสมควร กระทำครั้งเดียวแล้วยืนตรง ถ้าเป็นราชการหญิงฝ่ายพลเรือนหรือพยาบาลที่แม้จะสวมหมวก ให้ย่อเข่าที่เรียกกันทั่วไปว่า " ถอนสายบัวตามแบบข้าราชการฝ่ายใน สำนักพระราชวัง

ส่วนบุคคลทั่วไปที่มีโอกาสได้เฝ้าฯแต่มิได้แต่งเครื่องแบบ ชาย ให้ถวายคำนับ ดังกล่าวข้างต้น หญิงถวายความเคารพ แบบย่อเข่าที่เรียกว่าถอนสายบัว ในกรณีต่างจังหวัด ชนบท พสกนิกร จะยกมือประนม ก้มศีรษะไหว้แบบไทยก็ได้ทั้งชายและหญิง

ถ้าสวมหมวกที่ไม่ใช่เครื่องแบบที่ทางราชการ กำหนดให้ถอดหมวกแล้วถวายความเคารพเหมือนผู้ที่ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ยกเว้นผู้ที่โพกผ้า หรือสวมหมวกตามลัทธิศาสนาของตน

2.การยืนเฝ้าฯ รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมวงศ์ให้ยืนถวายความเคารพตามข้อ 1 แล้วยืนตรงจนกว่าจะเสด็จ  เลยไป เมื่อประทับพระราชอาสน์หรือพระเก้าอี้ เรียบร้อยแล้ว ถวายความเคารพอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึง เคลื่อนที่ได้และลงนั่งเก้าอี้ตามลำดับตำแหน่ง

ในกรณีที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจงานพระ ราชพิธีต่าง  เช่น เสด็จฯ ไปทรงจุดธูป เทียนบูชาพระรัตนตรัย หรือพระราชทานพระบรมราโชวาท ให้ยืนตรงจนกว่าทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ นั้นเสร็จ ประทับพระราชอาสน์พระเก้าอี้แล้วจึงถวาย ความเคารพแล้วนั่ง

ผู้ที่นั่งเฝ้าฯ อยู่ในงานพิธีการต่าง  เมื่อมีกิจจำเป็นจะต้องไปจากที่นั้น ให้ยืนถวายความเคารพก่อนแล้วจึงออกไปเมื่อกลับมาต้องถวายความเคารพอีกครั้งแล้วจึงนั่งลง

ในกรณีการเฝ้าฯ ที่ไม่ได้จัดให้นั่งเก้าอี้เฝ้าฯ เช่น งานสโมสรสันนิบาต งานเสด็จออกมหาสมาคม ผู้เฝ้า  จะต้องยืนตลอดเวลาจนกว่าจะเสด็จฯ กลับ

3. การยืนเคารพในพิธีที่มีการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงเพื่อถวายความเคารพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้แทนพระองค์

การยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในกรณีที่มิได้ อยู่ในที่เฝ้าฯ เช่น เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมี บรรเลงเป็นการเปิดหรือปิดงาน หรือเมื่อมหรสพเริ่ม หรือเลิก ควรทำความเคารพด้วยการยืนตรง เมื่อ เพลงจบให้คำนับโดยก้มศีรษะทั้งชายและหญิง


1. การยืนเคารพในพิธีที่มีการบรรเลงเพลงมหาฤกษ์และเพลงมหาชัย

เพลงมหาฤกษ์ ใช้บรรเลงในการเปิดงานที่เป็นพิธีใหญ่ เช่น พิธีเปิดสถานทำการของรัฐบาล พิธีเปิดทางคมนาคมที่สำคัญ  และงานที่เป็นมงคลทั่วไป

เพลงมหาชัย ใช้บรรเลงต้อนรับประธานของงานผู้มีเกียรติสูง นับตั้งแต่สมเด็จพระบรมราชกุมาร พระบรมวงศานุวงศ์ นายกรัฐมนตรี หรือเมื่อผู้เป็นประธานของงานกล่าวคำปราศรัยจบก็จะบรรเลงเพลงมหาชัยเป็นพิเศษ หรือบรรเลงในงานรับรองบุคคลสำคัญ งานสโมสรสันนิบาต เป็นต้น

เมื่อได้ยินเพลงมหาฤกษ์ หรือเพลงมหาชัยบรรเลงให้ยืน ตรงจนกว่าจะจบเพลง ในกรณีที่เป็นพิธี ของทางราชการผู้เป็นทหารหรือข้าราชการ พลเรือนที่อยู่ในเครื่องแบบให้ปฏิบัติตามระเบียบ ของราชการทหาร หรือราชการพลเรือนแล้วแต่ กรณี

2. การยืนเคารพในพิธีให้เกียรติ แก่ผู้ล่วงลับ 
ให้ยืนแสดงความเคารพเมื่อได้ ยินเสียงแตรเดี่ยว เป่าเพลงนอน หรือเมื่อประธานวาง เครื่องขมาหรือจุดเพลิงเผาศพ ไม่ว่าจะมี เพลงประโคมหรือไม่ก็ตาม และเมื่อการเชิญศพ ผ่านให้ยืนตรงแสดงความเคารพด้วย

3. การยืนเมื่อประธานในพิธีเดินผ่าน 
ทุกคนในที่นั้นลุกขึ้นยืนตรงหันหน้าไปทางประธาน ที่กำลังเดินผ่านปล่อยมือไว้ข้างตัว 
4. การยืนฟังโอวาท 
ให้ยืนตรง ชิดเท้า ปล่อยมือไว้ข้างตัว หันหน้าไปทางผู้ให้โอวาท ยกเว้นใน กรณีที่ถือประกาศนียบัตร หรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฯลฯ อยู่ ถ้าถือมือเดียวให้ถือด้วยมือขวาแนบไว้กับ อกหรือระดับตั้งฉากกับลำตัวแล้วแต่ทาง พิธีจะกำหนด ถ้าถือสองมือให้ถือระดับตั้ง ฉากกับลำตัว

5. การยืนกล่าวคำปฏิญาณ 
โอกาสที่กล่าวคำปฏิญาณ เช่น กล่าวคำปฏิญาณต่อ ธงชัยเฉลิมพล ถวายสัตย์ปฏิญาณแด่พระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ให้ยืนตรง ชิดเท้า หันหน้าไป ทางธงหรือพระองค์ท่าน กล่าวคำปฏิญาณของครู นักเรียนและกลุ่มบุคคลต่างๆ อาทิ ไทยอาสาป้องกันชาติ ลูกเสือ เนตรนารี ให้ผู้ที่กล่าวคำปฏิญาณ ปฏิบัติตามพิธีที่กำหนดไว้ของสถาบันนั้นๆ

1. การยืนรับคำสั่ง

ให้ยืนตรง ชิดเท้า หน้าตรง ปล่อยมือไว้ข้างตัว

2. การยืนให้เกียรติผู้ ใหญ่ การยืนลักษณะนี้ใช้เมื่อเรานั่งสนทนากัน อยู่แล้วมีผู้ใหญ่เดินเข้ามาหรืออยู่ร่วม สนทนาด้วย ให้ลุกขึ้นยืนตรงมือประสานกันอยู่ ระดับเอว ค้อมตัวเล็กน้อยรอจนผู้ใหญ่นั่ง แล้วจึงนั่งลง

3. การยืนสนทนากับ ผู้ใหญ่ ให้ยืนตรงชิดเท้า ค้อมตัวเล็กน้อย มือประสานกันอยู่ระดับเอว ไม่ควรยืนชิดหรือ ห่างผู้ใหญ่จนเกินไป

การแสดงความเคารพ

การแสดงความเคารพมีหลาย ลักษณะ เช่น การประนมมือ การไหว้ การกราบ การคำนับ การถวายความเคารพ การถวายบังคม เป็นต้น การที่จะ แสดงความเคารพในลักษณะใดนั้น ต้องพิจารณาผู้ที่ จะรับความเคารพด้วยว่าอยู่ในฐานะเช่นใด หรือในโอกาสใด แล้วจึงแสดงความเคารพให้ถูก ต้องและเหมาะสมการแสดงความเคารพแบ่งได้ดัง นี้คือ

 1. การประนมมือ (อัญชลีประนมมือให้นิ้วมือแนบชิดกัน ฝ่ามือราบ ปลายนิ้วตั้งขึ้น แขนแนบตัวระดับอก ไม่กาง ศอก ทั้งชายและหญิงปฏิบัติเหมือนกัน การประนมมือ นี้ใช้ในการสวดมนต์ ฟังพระสวดมนต์ ฟัง พระธรรมเทศนา และขณะพูดกับพระสงฆ์ซึ่งเป็น ที่เคารพนับถือ เป็นต้น

2. ไหว้ (วันทนา ) การไหว้เป็นการแสดงความเคารพโดยการประนม มือให้นิ้วชิดกันยกขึ้นไหว้ การไหว้แบบ ไทยแบ่งออกเป็น 3 แบบ ตามระดับของบุคคล ดัง นี้

ระดับที่ 1 การไหว้พระ ได้แก่ การ ไหว้พระรัตนตรัยรวมทั้งปูชนียวัตถุและปูชนีย สถานที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในกรณีที่ไม่ สามารถกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ได้ โดยประนมมือให้ปลาย นิ้วชี้จรดส่วนบนของหน้าผาก

ชาย ยืน แล้วค้อมตัวลงให้ต่ำพร้อมกับยกมือขึ้น ไหว้

หญิง ยืนแล้วย่อเข่าลงให้ต่ำโดย ถอยเท้าข้างใดข้างหนึ่งตามถนัด พร้อมยกมือ ขึ้นไหว้

ระดับที่ 2 การไหว้ผู้มีพระ คุณและผู้มีอาวุโส ได้แก่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ครู อาจารย์ และผู้ที่เราเคารพนับถือ อย่างสูง โดยประนมมือให้ปลายนิ้วชี้จรดระหว่าง คิ้ว 

ชาย ยืนแล้วค้อมตัวลงน้อยกว่าระดับ การไหว้พระ พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้

หญิง ยืนแล้วย่อเข่าลงน้อยกว่าระดับการไหว้พระ โดยถอยเท้าข้างใดข้างหนึ่งพร้อมกับยกมือ ขึ้นไหว้

ระดับที่ 3 การไหว้บุคคลทั่ว  ไปที่เคารพนับถือหรือผู้มีอาวุโส รวมทั้ง ผู้ที่เสมอกันโดยประนมมือยกขึ้นให้ปลาย นิ้วจรดปลายจมูก

ชาย ยืนแล้วค้อมตัวลง น้อยกว่าระดับการไหว้ผู้มีพระคุณ พร้อมกับ ยกมือขึ้นไหว้

หญิง ยืนแล้วย่อเข่าลง น้อยกว่าระดับการไหว้ผู้มีพระคุณ โดยถอย เท้าข้างใดข้างหนึ่งเล็กน้อย พร้อมกับยกมือ ขึ้นไหว้ 

ในการไหว้ผู้เสมอกันทั้งชาย และหญิงให้ยกมือขึ้นไหว้พร้อมกัน หรือใน เวลาใกล้เคียงกัน ในกรณีที่ทำพร้อมกันเป็น หมู่คณะ ควรจะนัดหมายให้ทำอย่างเดียวกัน

การไหว้ตามมารยาทไทยเช่นนี้ ปฏิบัติให้เรียบ ร้อยนุ่มนวลด้วยความสำรวมจึงจะดูงาม

3. การกราบ (อภิวาทเป็นการแสดงความเคารพด้วย วิธีนั่งประนมมือขึ้นเสมอหน้าผากแล้วน้อมศีรษะ ลงจรดพื้นหรือจรดมือ  ที่ใดที่หนึ่ง แล้วน้อมศีรษะลงบนมือนั้น เช่น กราบลงบน ตักก็อนุโลมถือว่าเป็นกราบ ถ้าหมอบแล้วน้อม ศีรษะจรดมือที่ประนมถึงพื้นเรียกว่า หมอบกราบ การกราบมี 2 ลักษณะ คือ การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ และการกราบผู้ใหญ่

3.1 การกราบแบญ จางคประดิษฐ์ ใช้กราบพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ์ การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ หมายถึง การ ที่ให้อวัยวะทั้ง 5 คือ เข่าทั้ง 2 มือทั้ง 2 และหน้าผากจรดพื้นการกราบจะมี 3 จังหวะ และจะต้องนั่งอยู่ในท่าเตรียมกราบ 

ท่าเตรียมกราบ

ชาย นั่งคุกเข่าปลายเท้าตั้ง นั่ง บนส้นเท้า มือทั้งสองวางบนหน้าขาทั้ง สองข้าง (ท่าเทพบุตร)

หญิง นั่งคุกเข่าปลาย เท้าราบ นั่งบนส้นเท้า มือทั้งสองวางบน หน้าขาทั้งสองข้าง (ท่าเทพธิดา)

จังหวะ ที่ 1 ( อัญชลียกมือขึ้นประนมระหว่างอก ปลายนิ้วชิดกันตั้งขึ้นแนบตัวไม่กางศอก

จังหวะที่ 2 (วันนายกมือขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะ โดยให้ปลายนิ้วชี้จรดหน้า ผาก

จังหวะที่ 3 (อภิวาททอดมือลง กราบ ให้มือและแขนทั้งสองข้างลงพร้อมกัน มือคว่ำห่างกันเล็กน้อยพอให้หน้าผากจรด พื้นระหว่างมือได้

ชาย ให้กางศอกทั้งสอง ข้างลง ต่อจากเข่าขนานไปกับพื้น หลังไม่ โก่ง

หญิง ให้ศอกทั้งสองข้างคร่อมเข่าเล็ก น้อย

ทำสามจังหวะให้ครบสามครั้ง แล้วยก มือขึ้นจบโดยให้ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผาก แล้วปล่อยมือลง การกราบไม่ควรให้ช้าหรือ เร็วเกินไป

3.2 การกราบผู้ใหญ่ ใช้ กราบผู้ใหญ่ที่มีอาวุโส รวมทั้งผู้มีพระ คุณได้แก่ พ่อ แม่ ครูอาจารย์ และผู้ที่เรา เคารพ กราบเพียงครั้งเดียว โดยที่ผู้กราบทั้งชาย และหญิงนั่งพับเพียบ ทอดมือทั้งสองข้างลง พร้อมกัน ให้แขนทั้งสองคร่อมเข่าที่อยู่ด้าน ล่างเพียงเข่าเดียว มือประนม ค้อมตัวลงให้หน้า ผากแตะส่วนบนของมือที่ประนม ในขณะกราบ ไม่ควรกระดกนิ้วหัวแม่มือขึ้นรับหน้าผาก

4. การคำนับ ให้ยืนตรง มือปล่อยไว้ข้างลำ ตัวค้อมศีรษะเล็กน้อย การคำนับนี้ส่วนมากเป็น การปฏิบัติของชาย แต่ให้ใช้ปฏิบัติได้ทั้งชาย และหญิงเมื่อแต่งเครื่องแบบและไม่ได้สวมหมวก 

5.1 การ ถวายบังคม เป็นราชประเพณีถวายความเคารพพระมหากษัตริย์ ในงานพระราชพิธีสำคัญ

ก่อนที่จะถวาย บังคมต้องนั่งอยู่ในท่าเตรียมคือ นั่งคุกเข่าปลาย เท้าตั้ง นั่งบนส้นเท้าเช่นเดียวกันทั้งชาย และหญิง มือทั้งสองวางคว่ำเหนือเข่าทั้งสอง ข้าง ชายนั่งแยกเข่าได้เล็กน้อย หญิงนั่งเข่า ชิด 

การถวายบังคมแบ่งออกเป็น 3 จังหวะ ดัง นี้

จังหวะที่ 1 ยกมือขึ้นประนมระหว่างอก ปลายนิ้วตั้งขึ้นแนบตัวไม่กางศอก

จังหวะ ที่ 2 ยกมือที่ประนมขึ้น ให้ปลายนิ้วหัว แม่มือจรดหน้าผากเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย

 จังหวะที่ 3 ลดมือกลับลงตามเดิมมาอยู่ ในจังหวะที่ 1

ทำให้ครบ 3 ครั้ง โดย จบลงอย่างจังหวะที่ 1 แล้วจึงลดมือลง วางคว่ำเหนือเข่าทั้งสองข้าง

การถวายบังคม ดังกล่าวนี้ หญิงมีโอกาสใช้น้อย จะใช้ใน กรณีที่มีชายกับหญิงไปถวายบังคมร่วมกัน ถ้าหญิงล้วนให้ใช้วิธีหมอบกราบ

5.2 การหมอบกราบ ใช้แสดงความเคารพพระมหากษัตริย์ลง มาถึงพระบรมวงศ์ ในโอกาสที่เข้าเฝ้า โดย นั่งพับเพียบเก็บปลายเท้าแล้วจึงหมอบลงให้ ศอกทั้งสองข้างถึงพื้นคร่อมเข่าอยู่ด้านล่าง เพียงเข่าเดียว มือประสาน เมื่อจะกราบให้ประนมมือ ก้มศีรษะลง หน้าผากแตะส่วนบนของมือที่ ประนม เมื่อกราบแล้วนั่งในท่าหมอบเฝ้าอีกครั้ง หนึ่ง แล้วทรงตัวนั่งในท่าพับเพียบตามเดิม



3. การถวายความเคารพแบบสากล ใช้กับ พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศ์

ชาย ใช้วิธี การถวายคำนับ โดยค้อมตัวต่ำพอสมควร 

หญิง ใช้วิธีการถวายความเคารพแบบย่อเข่า ( ถอนสายบัวมี 2 แบบ คือ

แบบสากลนิยม ยืนตรง หันหน้าไปทางพระองค์ ท่าน วาดเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหลังเล็ก น้อยตามถนัด พร้อมกับย่อตัวลง ลำตัวตรง หน้าตรง สายตาทอดลง ปล่อยแขนทั้งสองข้างแล้ว ยืนตรง

แบบพระราชนิยม ยืนตรง หัน หน้าไปทางพระองค์ท่าน วาดเท้าข้างใดข้าง หนึ่งไปข้างหลังเล็กน้อยตามถนัด พร้อมกับย่อ ตัวลง ขณะที่วาดเท้า ให้ยกมือทั้งสอง ข้างขึ้นวางประสานกันบนขาหน้าเหนือเข่าค้อม ตัวเล็กน้อยทอดสายตาลง เสร็จแล้วยืนขึ้นใน ลักษณะเดิม 





6.1 การแสดงความเคารพศพ จะต้องกราบพระพุทธ รูปเสียก่อนแล้วจึงไปทำความเคารพศพ ส่วน การจุดธูปหน้าศพนั้นเป็นเรื่องเฉพาะของลูก หลานหรือศิษยานุศิษย์ หรือผู้เคารพนับถือ ที่ประสงค์จะบูชา

การเคารพศพพระ ถ้า เจ้าภาพจัดให้มีการจุดธูปให้จุด 3 ดอก ชายกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ หญิงหมอบกราบแบบเบญจางค ประดิษฐ์ 3 ครั้ง

การเคารพศพคฤหัสถ์ ให้ทำ ความเคารพเช่นเดียวกับตอนที่ผู้ตายยังมี ชีวิตอยู่ ถ้าเป็นศพของผู้ที่มีอาวุโสมาก กราบ 1 ครั้ง แต่ถ้าเป็นศพของผู้ที่มี อาวุโสใกล้เคียงกันกับผู้ที่ไปทำความเคารพ ให้ไหว้ในระดับที่ 3 (ไหว้บุคคลทั่ว  ไปส่วนการเคารพศพเด็กนั้นเพียงยืนสงบ หรือนั่งสำรวมครู่หนึ่ง

ในกรณีที่ศพได้ รับพระราชทานเกียรติยศ ผู้เป็นประธานจุดธูป เทียนที่หน้าพระพุทธรูปและที่หน้าตู้พระ ธรรม แล้วไปจุดเครื่องทองน้อยที่หน้าศพเพื่อ แสดงว่าผู้วายชนม์บูชาพระธรรม แล้วจึงเคารพ ศพ

ส่วนผู้ไปในงาน กราบพระพุทธรูป ที่โต๊ะหมู่บูชาแล้วจึงเคารพศพด้วยการกราบ หรือคำนับ

6.2 การเคารพอนุสาวรีย์บุคคลสำคัญ อนุสาวรีย์ บุคคลสำคัญอาจเป็นรูปปั้น ภาพถ่าย ภาพวาด หรือ สัญลักษณ์อื่นก็ได้ ให้แสดงความเคารพด้วยการคำนับ หรือกราบ หรือไหว้แล้วแต่กรณี

ในโอกาสพิเศษ หรือเป็นพิธีการ เช่น เมื่อครบรอบวันเกิด หรือ วันสำคัญที่เกี่ยวข้องอันเป็นพิธีการให้ใช้ พุ่มดอกไม้ ถ้าครบรอบวันตายหรือแสดงความระลึก ถึงอันเป็นพิธีการให้วางพวงมาลา

ใน โอกาสอื่นๆ ที่ไม่เป็นพิธีการอาจแสดงความเคารพ โดยใช้หรือไม่ใช้เครื่องสักการะก็ได้

6.3 การแสดงความเคารพของผู้เป็นประธาน  ที่ บูชา เมื่อประธานในพิธีลุกจากที่นั่งเพื่อไป บูชาพระรัตนตรัย ผู้ร่วมพิธียืนขึ้น และเมื่อประธาน เริ่มจุดธูปเทียน ผู้ร่วมพิธีประนมมือเสมออก เมื่อประธานกราบผู้ร่วมพิธียกมือที่ประนมขึ้น ให้นิ้วชี้จรดหน้าผาก พร้อมทั้งก้มศีรษะเล็ก น้อย หากที่บูชามีธงชาติและพระบรมฉายา ลักษณ์ด้วย เมื่อประธานบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแล้ว ให้ยืน ขึ้นถอยหลัง 1 ก้าว ยืนตรง ค้อมศีรษะคารวะครั้ง เดียว ซึ่งถือว่าได้เคารพต่อธงชาติและพระ บรมฉายา-ลักษณ์ไปพร้อมกันแล้ว ให้ประธานปฏิบัติ เช่นเดียวกันนี้ทั้งชายและหญิงทั้งที่อยู่ ในและนอกเครื่องแบบ 





เมื่อจบพิธีแล้วประธาน ควรกราบพระพุทธรูปที่โต๊ะหมู่บูชาอีกครั้ง หนึ่ง ส่วนผู้เข้าร่วมประชุมยืนขึ้นด้วยอาการสำรวม แล้วจึงไหว้ลาพระรัตนตรัยเป็นอันเสร็จพิธี แต่ ในกรณีที่ยังมีกิจกรรมต่อเนื่อง เช่น ประธาน ทักทายสังสรรค์กับผู้เข้าร่วมประชุม หรือดื่มน้ำ ชา และประธานอยู่ร่วมกิจกรรมด้วย เมื่อประธานจะ กลับ ไม่จำเป็นต้องกราบพระรัตนตรัย

6.4 การแสดงความเคารพของผู้ที่แต่งเครื่องแบบ ให้ปฏิบัติตามระเบียบของสถาบันนั้น 

 7. การรับความเคารพ เมื่อผู้น้อยมาทำความเคารพ ควรรับ ความเคารพด้วยการประนมมือหรือค้อมศีรษะรับตาม ควรแก่กรณี 

การเดิน


1. การเดินนำเสด็จฯ

เมื่อพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ หรือสมเด็จพระบรมวงศ์เสด็จฯ มาถึง ประธานจัดงานหรือเจ้าภาพที่คอยรับเสด็จฯ ถวายความเคารพกราบบังคมทูลแล้วถวายรายงานใน โอกาสนี้จะเบิกผู้ที่สมควรเข้าเฝ้าด้วย ก็ได้ แล้วจึงเดินนำเสด็จฯ ไปยังสถาน ที่ที่กำหนดโดยปฏิบัติดังนี้

เดิน เยื้องไปข้างหน้าไว้ระยะห่างพอสมควรจะอยู่ ด้านใดแล้วแต่สถานที่จะอำนวยแต่โดย ปกติผู้นำเสด็จจะอยู่ด้านซ้ายของพระองค์ ท่าน ในการเสด็จพระราชดำเนินบนลาดพระบาท ผู้นำเสด็จต้องไม่เดินบนลาดพระบาท

ขณะที่เดิน ผู้นำเสด็จจะต้องเดิน ในลักษณะสำรวม

เมื่อถึงที่ประทับผู้ นำเสด็จถวายความเคารพก่อนจะถอยออกไป ผู้ นำเสด็จถวายความเคารพอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อจะ นั่งที่ต้องถวายความเคารพอีกครั้งหนึ่ง

หมายเหตุ การถวายความเคารพนั้น ให้ผู้นำเสด็จปฏิบัติ ตามความเหมาะสมแก่เครื่องแบบและเพศของตน

ในกรณีที่ผู้นำเสด็จต้องกราบบังคมทูล ถวายคำอธิบายให้ทรงทราบเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ หรือการแสดง ควรปฏิบัติดังนี้

เดิน เยื้องไปข้างหน้าไว้ระยะห่างพอสมควร พอ ได้ยินพระราชกระแสและกราบบังคมทูลชี้แจง ในเรื่องที่ตรัสถาม ผู้นำเสด็จจะอยู่ด้าน ใดแล้วแต่สถานที่จะอำนวย แต่โดยปกติจะอยู่ด้ายซ้ายของพระองค์ท่านในการนี้ผู้ นำเสด็จควรศึกษาเรื่องราวมาล่วงหน้า หรือกราบ บังคมทูลเบิกตัวผู้ใดผู้หนึ่งที่มีความ รู้ในเรื่องนี้ให้ถวายคำอธิบาย

ผู้นำเสด็จจะต้องเดินในลักษณะสำรวมไม่เดิน เสมอพระองค์ท่าน

2. การเดินตามเสด็จ ทั้งชายและหญิงให้เดินเบื้องหลังพระองค์ท่าน ในลักษณะสำรวมไม่ยิ้มหัว ทักทายหรือทำความ เคารพผู้อื่น ถ้ามีลาดพระบาทผู้ที่เดิน ตามเสด็จไม่ควรเดินบนลาดพระบาท

3. การเดินในบริเวณที่ประทับ โดยปกติถ้าพระ องค์ท่านประทับอยู่ ไม่ควรเดินผ่านที่ประทับเว้น แต่มีความจำเป็นก็ต้องเดินอย่างสำรวมระวัง ที่สุด

การเดินผ่านหน้าหรือหลังที่ประทับ ต้องอยู่ในระยะห่างและพึงกระทำในกรณีที่ จำเป็นที่สุด โดยถวายความเคารพดังนี้

ลุกจากที่นั่ง

ผ่านที่ประทับ

กลับเข้าที่ก่อนนั่งลง

การเดินไปทำธุระกิจใด  ในบริเวณที่ เฝ้า เช่นยก หรือเลื่อนสิ่งของ พึงถวายความเคารพ ตามลำดับดังนี้

ลุกจากที่นั่ง

ถึงที่จะทำกิจธุระ

ทำกิจธุระเสร็จแล้วจะกลับที่นั่งเดิม

กลับเข้าที่แล้วก่อนนั่งลง

การเดินขึ้นและลงเมรุเผาศพ พึงถวายความ เคารพตามลำดับ ดังนี้

ลุกจากที่นั่ง

ผ่านที่ประทับแล้วขึ้นเมรุ

ลงจากเมรุถึงพื้น

ผ่านที่ประทับ

ก่อนนั่ง  ที่ของตน


ทั้งสามกรณีดังกล่าว ผู้ปฏิบัติพึงระวังไม่ หันหลังไปทางพระองค์ท่าน ยกเว้นเฉพาะผู้ ยืนถวายอารักขาเท่านั้น 

การเดินเวียนเทียนหรือทำประทักษิณ ในวัน สำคัญทางพระพุทธศาสนาหรือในโอกาสอื่นเพื่อแสดง คารวะต่อพระรัตนตรัย ปูชนียวัตถุ หรือปูชนียสถาน เดินเวียนขวา 3 รอบ โดยให้มีปูชนียวัตถุ หรือปูชนียสถานอยู่ทางขวามือของผู้เดิน และพึงปฏิบัติดังนี้

1. เดินประนมมือ โดยมีดอกไม้ ธูปเทียนพร้อม (ในถิ่นกันดารหา ดอกไม้ ธูปเทียนยากจะเพียงเดินประนมมือก็ได้

2. ขณะเดินควรระมัดระวังอย่าให้ธูปเทียน ที่จุดไฟอยู่ไปถูกผู้อื่น

3. ขณะเดินควรระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระ สังฆคุณ (ที่แนะไว้นี้พอเป็นแนวปฏิบัติ แต่ถ้าผู้ใดจะบำเพ็ญจิตภาวนากำหนดกรรมฐานอย่าง อื่น หรือพระไตรลักษณ์คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ ได้ ) 


1. การเดินตามศพเวียนเมรุ ให้เดินในลักษณะ สำรวมเดินเวียนซ้าย 3 รอบ โดยให้เมรุอยู่ทาง ซ้ายของผู้เดิน

2. การเดินขึ้นและ ลงเมรุเผาศพ ให้เดินเรียงแถวตามลำดับอย่าง มีระเบียบ ไม่แย่งกันขึ้นหรือลง รวมทั้งไม่ แย่งกันรับของที่ระลึก

3. การเดิน ในขบวนแห่ ได้แก่ ขบวนแห่ในพิธีต่าง  เช่น แห่องค์กฐิน แห่เทียนพรรษา และแห่พระศพ ฯลฯ ให้เดินอย่างมีระเบียบและถูกต้องตามกฎ จราจร

4. การเดินเข้า-ออกระหว่างการ ประชุม โดยมารยาททั่วไปผู้ที่มีความจำเป็น ต้องเดินเข้าหรือออกระหว่างที่กำลังมีการประชุม ควรแสดงความเคารพประธานของที่ประชุมทุกครั้งด้วย การไหว้หรือคำนับเมื่อลุกจากที่นั่ง และเมื่อ เข้าสู่ที่ประชุม 


ขณะที่ผ่านผู้ใหญ่ไม่ควรเดินลงส้น หรือมีเสียงดัง และต้องผ่านในระยะห่างพอสมควร

1. ขณะผู้ใหญ่ยืน ทั้งชาย และหญิงให้เดินผ่านในลักษณะสำรวมเคาะ 3 เคาะปล่อยมือไว้ข้างตัวและค้อมตัวเมื่อใกล้ถึงผู้ใหญ่


2. ขณะผู้ใหญ่นั่งเก้าอี้ ทั้งชายและหญิงให้เดินผ่านในลักษณะสำรวม ปล่อย มือไว้ข้างลำตัว ค้อมตัวพร้อมกับย่อเข่า เมื่อใกล้ถึงผู้ใหญ่
นั่งเก้าอี้อยู่แต่ถ้าเป็นในบ้านอาจจะใช้วิธีเดินเข่าก็ได้

3. ขณะผู้ใหญ่นั่งหรือนอนกับพื้น ทั้งชายและหญิงให้เดินผ่านในลักษณะสำรวมเมื่อถึงที่ผู้ใหญ่นั่งอยู่ให้ทรุดตัวลงเดินเข่า เมื่อผ่าน
ผู้ใหญ่ไปแล้วค่อยลุกขึ้นเดิน 


วิธีการเดินเข่า ให้คุกเข่าปลายเท้าตั้ง แล้วค่อยสืบเข่าออกทีละข้างเหมือนกับการเดิน และค้อมตัวลงเล็กน้อยเมื่อใกล้จะถึง ผู้ใหญ่ 


1. การเดินนำ เดินระยะห่างพอสมควรจะอยู่ด้านใดแล้วแต่สถานที่จะอำนวย แต่โดยปกติผู้เดินจะอยู่ทางซ้ายของผู้ใหญ่
เดินลักษณะสำรวม



2.การเดินตาม เดินเบื้องหลัง เยื้องไปทางซ้ายของผู้ใหญ่เดินลักษณะสำรวมระยะห่างพอสมควร



การเดินที่ไม่เกี่ยวกับพิธี ได้แก่ เดินการกุศล เดินในที่สาธารณะเดินกับเพื่อน เดินตามถนน เดินข้ามถนน ถ้าเดินในที่สาธารณะ
หรือเดินกับเพื่อน ให้เดินโดยไม่กีดขวางทางหรือก่อความรำคาญแก่ผู้อื่น ถ้าเดินตามถนนให้เดินบนทางเท้า เมื่อจะข้ามถนนให้ปฏิบัติ
ตามกฎจราจรควรใช้สะพานลอยหรือทางข้าม (ทางม้าลาย) แม้การเดินในทางข้ามก็ควรระมัดระวังพอสมควร